top of page

สหรัฐ อดทนไว้! จีนยกเลิกสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ป้อนแบรนด์ดังแล้ว

World Update
3 August 2022
       แร่ธาตุและอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของโลกยุคปัจจุบัน ที่ใครครองได้ก็แทบจะครองโลกโดยปริยาย อย่างแรกคือ เซมิคอนดักเตอร์ ที่ต้องใช้วัตถุดิบซิลิคอน ผสมกับธาตุเจอร์เมเนียม ซีลีเนียม และตะกั่วเทลลูไรด์ ไต้หวันมีบริษัท TSMC เป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ มากเป็นอันดับ 1 ของโลก เหตุเพราะอยู่ใกล้แห่งวัตถุดิบและแหล่งแร่คือ "จีน" ที่เป็นดินแดนครอบครองแร่แรเอิร์ทหายากกว่า 90% ของโลก และอีก 10% กระจายอยู่หลายแห่ง เช่น อัฟกานิสถาน ออสเตรเลีย ฯลฯ ในปี 2020 ไต้หวัน นำเข้าทรายบริสุทธิ์และกรวดจากจีน 5.67 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% ของทั้งหมดเพื่อนำไปสกัดเอาซิลิกอน ไปใช้ร่วมกับแร่แรเอิร์ทอื่นจากจีนผลิตเซมิคอนดักเตอร์ รายได้หลักส่งออกของไต้หวันราว 41% มาจากการผลิตและส่งออกเซมิคอนดักเตอร์และชิปอิเลคทรอนิคส์

            เฉพาะเดือน มิ.ย.2022 มียอดส่งออกราว 1.12 ล้านล้านหยวน ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ของจีน สั่งงดส่งออกทรายธรรมชาติไปยังไต้หวัน เพื่อตัดต้นธารวัตถุดิบทำแผ่นซิลิคอนสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ หมายถึงต่อไปนี้อุตสาหรรมด้านนี้ของไต้หวันจะ "ขาดแคลนวัตถุดิบ" รายได้ส่งออกราว 40% ของไต้หวันจะลดฮวบถึงหายวับไปในที่สุด ธุรกิจเกี่ยวเนื่องระเนระนาด คนงานจะถูกเลิกจ้างอีกมากมาย แม้จะไปตั้งโรงงานใหม่ที่รัฐอริโซนา สหรัฐ แต่นั่นย่อมไม่ใช่รายได้ส่งออกของไต้หวัน และวัตถุดิบ จะมีมากมายเหมือนจีนหรือไม่, รัฐบาลจีนยังประกาศห้ามองค์กร วิสาหกิจ หรือบุคคลของจีนทำธุรกรรมหรือความร่วมมือใด ๆ กับ Speedtech Energy, Hyweb Technology, Skyla, SkyEyes GPS Technology อีกด้วย และยังเตือนไม่ให้สายการบินพาณิชย์ต่าง ๆ บินเข้าใกล้ไต้หวัน เป็นการปิดล้อมทางเศรษฐกิจให้พังเร็วขึ้น

             อุตสาหกรรม อนาคตอย่างที่สองคือ "แบตเตอรี่ไฟฟ้ารถยนต์" ที่ต้องใช้แร่แรเอิร์ธหายาก คือ ลิเธียม โคบอลต์ นิกเกิ้ล และแมงกานีส ซึ่งจะเป็นส่วนประกอบในแบตเตอรี่ โดยเฉพาะลิเธียม โคบอลต์จะอยู่จีนแทบทั้งหมด ส่วนแร่นิกเกิ้ล จะมีอยู่ในบราซิล รัสเซีย ที่อยู่ในกลุ่ม BRICS ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถไฟฟ้าที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดคือจีนมากถึง 5 บริษัท มียอดขาย 43% รองลงมาคือ ยุโรป มีส่วนแบ่ง 36% ที่เหลือเป็นสหรัฐ และอื่น ๆ เรียกได้ว่าจีนควบคุมวัตถุดิบของโลกในอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์ และแบตเตอรี่ไฟฟ้ารถยนต์นั่นเอง

          ไม่ว่าจะมีโรงงานใหญ่ทันสมัยแค่ไหน ญี่ปุ่น เกาหลีไต้ ฝรั่งเศส สหรัฐ ฯลฯ ถ้าจีนไม่ป้อนวัตถุดิบแร่แรเอิร์ทหายากให้ก็จบทุกโรงงาน และพากันดิ่งเหวไปทั้งโลก โดมิโนไปถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ รถไฟฟ้า เรือ เครื่องบิน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้า ฯลฯ, ปี 2020 ทั่วโลกมีการขายรถยนต์ไฟฟ้า (รวม Plug-in Hybrid, Battery EV) ไปแล้ว 3.2 ล้านคัน แบ่งเป็นรถที่ผลิตจาก ยุโรป 1.4 ล้านคัน, จีน 1.32 ล้านคัน และจากสหรัฐ 3.2 แสนคัน ถึงแม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์ 10 อันดับแรก จะอยู่ในสหรัฐฯ และยุโรป แต่ Supply Chain ของรถอีวีทั้งหมดโดยเฉพาะแร่วัตถุดิบผลิตแบตเตอรี่ยังต้องพึ่งพาจีน ทำให้จีนมีบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุด คือ CATL, BYD, EVE, Guoxuan Hitech, Sunwoda

          โดยบริษัท CATL มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองหนิงเต๋อ มณฑลฝูเจี้ยน ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ติดกับช่องแคบไต้หวัน มีสำนักงานสาขาในหลายประเทศทั่วโลก เช่น กรุงมิวนิก เยอรมนี, กรุงปารีส ฝรั่งเศส, โยโกฮาม่า ญี่ปุ่น, ดีทรอยต์ สหรัฐ และแวนคูเวอร์ แคนาดา มีพนักงานกว่า 24,000 คนทั่วโลก ปัจจุบัน บริษัท CATL เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า "รายใหญ่ที่สุดของโลก" เช่น Tesla, BMW, Volkswagen และ Mercedes-Benz ฯลฯ ภายหลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาฯผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางไปไต้หวันสร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับทางการจีน

          ล่าสุดบริษัท Contemporary Amperex Technology Co. Ltd. (CATL) ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีนและใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศระงับก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่มูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐ ทั้งที่จะมีการประกาศพื้นที่ที่จะก่อสร้างโรงงานในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน พร้อมระงับการเตรียมจ้างงาน 10,000 อัตรา ระงับการป้อนแบตเตอรี่ไฟฟ้าให้กับเทสล่า และฟอร์ด มอเตอร์ สหรัฐ มูลค่าความเสียหายต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐ บวกการพังทลายการผลิตเซมิคอนดักเตอร์จากไต้หวัน จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยจนสุดประมาณให้กับสหรัฐ  รุนแรงกว่า "เล่นกับไฟ" ตามที่จีนประกาศเตือนล่วงหน้าเสียอีก..แหย่รัสเซียอีกสักนิด แหย่จีนอีกสักหน่อย..ชนะวินาศย่อยยับแน่นอน 😱🤭😂

ที่มา : Bloomberg , cgtn
#WorldUpdate

bottom of page